การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินคืออะไร?
การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินก็คือ วิธีการคุมกำเนิดที่ใช้ภายหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เฉพาะกรณีฉุกเฉินจริงๆ
การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน จะใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะในกรณีที่คุณ “พลาด” และเสี่ยงต่อการตั้ง ครรภ์โดยไม่ต้องการเท่านั้นมันไม่ใช่การคุมกำเนิดตามปกติและไม่ใช่วิธีที่จะ นำมาใช้ในการวางแผนครอบครัวด้วย เรามักเรียกยาเม็ด ที่ใช้เพื่อการคุมกำเนิดฉุกเฉินนี้ว่า”ยาคุมหลังร่วมเพศ” หรือ “ยาคุมชั่วคราว” หรือ “morning after” ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่สร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่การใช้ยาคุมฉุกเฉีนผิด วัตถุประสงค์ ซึ่งอาจมีผลต่อร่างกายของผู้หญิงในระยะยาวเพราะยาคุมฉุก เฉินไม่ใช่การคุมกำเนิดแบบธรรมดาที่เราคุ้นเคยกันอย่างเช่นยาคุม 21 เม็ด หรือยาคุม 28 เม็ด แต่ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ผลิตขึ้นมา โดยมีสูตรเฉพาะเพื่อให้ผู้หญิงใช้ในช่วงที่เกิดปัญหาและไม่ต้องการตั้งครรภ์ เท่านั้นหากเรานำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดา มันจะกลายเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำไปในทันทีนั่นหมายความว่า หากคุณมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำและใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆเพื่อป้องกันการ ตั้งครรภ์ คุณจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้นเมื่อเทียบกับถ้าคุณใช้วิธีคุม กำเนิดแบบธรรมดาวิธีอื่นๆ
การคุมกำเนิดฉุกเฉินมิได้เพียงการ กินยาเท่านั้น แต่ยังสามารถทำได้ โดยการใส่”ห่วงอนามัย” หรือที่ เรียกว่า IUD (ไอยูดี) ซึ่งวิธีนี้ต้องอาศัยแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ผ่านการอบรมเป็นผู้ ใส่ให้เป็นวิธีที่ไม่สะดวกจึงไม่เป็นที่นิยมใช้
ยาคุมฉุกเฉินคืออะไร ?
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ผู้หญิง ทั่วโลกใช้ยาคุมฉุกเฉินในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ ได้ป้องกัน (unprotected sex) องค์การอนามัยโลกให้การรับรองว่าการกินยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมี ประสิทธิภาพในการป้องกัน การตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ในระดับ หนึ่ง
ยาคุมฉุกเฉินมีส่วนผสมเช่นเดียวกับ ยาคุมธรรมดา แต่มีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่าและต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลา ที่กำหนดเท่านั้น จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ในขณะที่ยาคุมธรรมดาต้องกินวัน ละ 1 เม็ด ทุกๆ วัน (กรณีแผงละ 28 เม็ด) และมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดน้อยกว่า
ยาคุมฉุกเฉินมี 2 แบบ
ยาคุมฉุกเฉิน ฮอร์โมนผสม ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสตินผสมกัน(Combined Pill Regimens : Yuzpe Method) ปริมาณยาที่กินแต่ละครั้งต้องมีฮอรฺโมนเอธิลเอสตราดิออล(ethinyl estradiol) อย่างน้อย 0.1 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนเลวอนอร์เจสเตรล(levonorgestrel) อย่างน้อย 0.5 มิลลิกรัม
ยาคุมฉุกเฉิน ฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งมีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว(Progestin-Only Pill Regimens) ปริมาณยาที่กินแต่ละครั้งต้องมีฮอร์โมนเลวอนอร์เจสเตรล(levonorgestrel) อย่างน้อย 0.75 มิลลิกรัม
ใครควรกินยาคุมฉุกเฉิน ?
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาคุมธรรมดาซึ่ง ที่ต้องกินเป็นประจำทุกวัน หากแต่ยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนสุงกว่าเพราะผลิตขึ้นมาเพื่อ แก้ปัญหาให้แก่ผูหญิงที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น
* มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิด ใดๆ
* ใช้ถุงยางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารั่ว/แตก/หลุดหรือไม่
* กินยาคุมชนิดธรรมดาอยู่ แต่ลืมเกินไป วันสองวันหรือนานกว่านั้น
* ใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้ว แต่มันหลุด
* นับระยะปลอดภัย (หน้าเจ็ดหลังเจ็ด) ผิดพลาด
* ถูกข่มขืน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่เต็มใจ
ในภาวะฉุกเฉินที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธี หลังจากมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้ประมาณ75% แต่ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะๆ คุณควรจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดาซึ่งจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการ กินยาคุมฉุกเฉิน
วิธีการกินยา
ตามข้อมูลทางวิชาการ การกินยาคุมฉุกเฉินทั้งแบบฮอร์โมนผสม และแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยวมีวิธีการกินเหมือนกันคือ ต้องกิน 2 ครั้ง
ครั้งแรกภายใน เวลา 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์
ครั้งที่สอง กินหลังจากที่กินครั้งแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง
หมายความว่า ถ้ามีเพศสัมพันธ์ตอนสองทุ่ม และกินยาเม็ดแรกตอน 5 ทุ่ม จะต้องกินยาเม็ดที่สองตอน11 โมงเช้าซึ่งก็คือ 12 ชั่วโมงถัดมานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังมีการศึกษาวิจัยว่า จำเป็นต้องกินยาเม็ดที่สองหรือไม่เพราะถ้าประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้ง ครรภ์ในกรณีที่กินเม็ดเดียว กับกรณีที่กินยาสองเม็ดนั้นไม่แตกต่างกันการกินแค่เม็ดเดียว น่าจะช่วยลดอาการข้างเคียงของยาลงได้แต่ยังไม่สามารถยืนยันผลใดๆเนื่องจาก การศึกษาวิจัยนี้ยังไม่เสร็จสิ้น
ยาคุมธรรมดาก็สามารถใช้เป็นยาคุมฉุกเฉินได้
ยาคุมแบบธรรมดาว่าจะเป็นแผง 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ที่มีชนิดและปริมาณของฮอร์โมนตรงตามสูตรของยาคุมฉุกเฉินสามารถนำมาใช้กิน เป็นยาคุมในเวลาฉุกเฉินได้ ตารางที่แสดงในหน้าต่อไปจะบอกให้รู้ว่ามียาคุมที่ขายในประเทศไทยยี่ห้อใด บ้างที่สามารถนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ ข้อควรระวังในการกินยาแต่ละยี่ห้อก็คือ การกินแต่ละครั้งจะมีจำนวนเม็ดยา ที่ต้องกินมากน้อยต่างกันไปตามปริมาณของฮอร์โมนที่มีอยู่ในตัวยาแต่ละยี่ห้อ และในการกินแต่ละครั้งจะต้องกินยี่ห้อเดียวกันเท่านั้น